วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค/วัดคู้สลอด


เมื่อวันที่ ๙ ก.พ.๕๔ ช่วงบ่ายแก่ ๆ ผมกำลังทำกรอบพระอยู่เพื่อนสมัยหนุ่ม ๆ ที่เคยเป็นช่างห้องมืดมาเที่ยวหาที่บ้าน เขามีพระหลวงพ่อปานขึ้นคออยู่ ผมจึงไถ่ถามดู พบว่าบ้านเดิมพ่อแม่อยู่ติดกับวัดบางนมโคตอนเด็ก ๆ มีทุกพิมพ์

ด้วยความที่เป็นเด็ก ๆ ไม่ได้สนใจก็แจกจ่ายไปให้เพื่อน ๆ จนเหลือแค่ ๒ องค์ คือองค์นี้กับอยู่ที่บ้านแถวบางขุนเทียนอีกองค์

ครั้งต่อไปหากแวะมาจะเอาพระสะสมบางส่วนมาให้ผมชมครับ

รายนี้เป็ยชาวอยุธยาเมืองเก่ามีของดีมากมายครับ

จากช่างห้องมืดล้างฟิล์มอัดรูปมาเป็นมืออาสาหลายหน่วยงานทำงาน



ติดต่อภาครัฐเพื่อการจดทะเบียนต่าง ๆ เป็นอาชีพ ชอบบิดมอเตอร์ไซค์ ตอนนี้ใช้แพนธ่อมอยู่ครับ

นาน ๆ จะโผล่มาเยี่ยมทีหนึ่งครั้งก่อนแขวนพระพุทธชินราชอินโดจีน แต่ได้ให้พรรคพวกไปแล้ว เลยมีหลวงพ่อปานองนี้ขึ้นคอแทนครับ



UPDATE

บ่ายวันนี้ ๑๑ ก.พ. ๒๕๕๔ ผมไปหาเพื่อนที่เลี้ยงสารพัดนก แถมชอบสะสมพระเครื่อง ได้พูดคุยเรื่องเพื่อนนักขี่มอเตอร์ไซค์มาหาวันก่อนและได้ถ่ายรูป
พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคพิมพ์ขี่ไก่(หางพวง) แล้วก็เปิดกล้องให้ดูรูป

หลวงพ่อปานวัดบางนมโคพิมพ์ขี่ไก่ด้านหน้า

หลวงพ่อปานวันบางนมโคพิมพ์ขี่ไก่ด้านหลัง

บอกว่าเจ้าของยืนยันว่าแม่เขาได้มาจากวัดบางนมโค
ตั้งแต่ยุคหลวงพ่อปานยังมีชีวิตอยู่  

เมื่อถามไถ่กันแล้วเพื่อนที่เลี้ยงสารพัดนกก็เอาพระหลางพ่อปานที่สะสมไว้มาให้ชมสองสามองค์ เป็นพิมพ์ขี่ไก่หางสามเส้น พิมพ์ขี่อนุมาน กับพิมพ์ทรงครุฑแบบลงรักสีดำปิดทองเก่า  

คุยไปสักครู่ก็ถามถึงเพื่อนคนที่ผมถ่ายรูปทรงขี่ไก่หางพวงว่าเป็น
คนพื้นเพจาก อ.เสนา จ.อยุธยา เหมือนเพื่อนที่เลี้ยงสารพัดนก

คุยกันต่อไปก็พบว่าเพื่อนที่มาหาผมวันก่อนเป็นคนบ้านใกล้เรือน
เคียงรู้จักเล่นกันมาช่วงเด็ก ๆ กับเพื่อนที่เลี้ยงสารพัดนก

ถึงขนาดจุดไต้ตำตอเมื่อผมโทรไปหาคนชอบขี่มอเตอร์ไซค์ให้คุยกับนักเลี้ยงสารพัดนก
แค่คุยทางโทรศัพท์ทั้งคู่ถามไถ่ถิ่นที่อยู่

ถามหาต้นไม้ใหญ่ตรงโน้นตรงนี้

สุดท้ายถามชื่อก็ปรากฎว่ารู้จักกันเป็นอย่างดี เจอกันครั้งหลังสุดเมื่อเมษายนปีก่อน

หลวงพ่อปานวัดบางนมโคพิมพ์ขี่หนุมานด้านหน้า
หลวงพ่อปานวัดบางนมโคพิมพ์ขี่หนุมานด้านหลัง

หลวงพ่อปานวัดบางนมโคพิมพ์ทรงครุฑลงรักปิดทองเก่าด้านหน้า


หลวงพ่อปานวัดบางนมโคพิมพ์ทรงครุฑลงรักด้านหลัง

แถมพระหลวงพ่อปานที่ผมถ่ายรูปมาอวด  เขาก็เคยส่องดูมาก่อน
แล้วอีกด้วย

เป็นเรื่องบังเอิญยิ่งกว่าหนังไทย เพราะทั้งสองคนผมรู้จักต่างวาระกัน ห่างกันตั้งเกือบ ๓๐ ปี


องค์ซ้ายมือคือองค์ที่ผมแลกมาวันนี้ เป็นหลวงพ่อปาน กรุวัดคู้สลอด พิมพ์ขี่หนุมาน (องค์ขวาแบบไม่บรรจุกรุ)


ด้านหลัง องค์ซ้ายของผมที่แลกมาเป็นพระกรุวัดคู้สลอด มีคราบกรุ สภาพสวยมาก (องค์ขวาแบบไม่บรรจุกรุ สีออกน้ำตาลจากน้ำมันลินซีด-Linseed oil)

ว่าแล้วก็เอาพระหลาวงพ่อปานกรุวัดคู้สลอดที่ลูกศิษหลวงพ่อปานสร้าง ได้ผงวิเศษและหลวงพ่อปานเป็นผู้ปลุกเสกออกมาให้ชมอีก ๔ องค์

เป็นพิมพ์ทรงครุฑ พิมพ์ขี่หนุมาน ๒ องค์ และพิมพ์ขี่ปลา

คุยต่อไปเพื่อนก็บอกว่าขอแลกกับพระบางองค์ของผมที่เคยดูครั้งก่อน ๆ โดยไม่รู้ว่าเป็นของวัดไหน  

ผมก็แลกพระหลวงพ่อปานกรุวัดคู้สลอดพิมพ์ขี่หนุมาณมาเรียบ
ร้อยครับ

พระหลวงพ่อปานวัดบางนมโคแบบดินเผาธรรมดากับแบบลงรักปิดทอง


แค่สองวันที่ผมเขียนเรื่องนี้ ผมก็ได้พระหลวงพ่อปานกรุวัดคู้สลอดแท้ ๆ จากเพื่อนที่เป็นคน พื้นเพมาจาก อ.เสนา จ.อยุธยา มา ๑ องค์

อย่างนี้เรียกว่าแปลก 


แปลกที่ ๑

คือจุดไต้ตำตอเพื่อนสองคนเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ 

แปลกที่ ๒

ผมได้พระมาโดยไม่ต้องไปซื้อหาที่ไหน และเพื่อนเป็นคนเอ่ยปากขอแลกเอง

...หลวงพ่อปานนี่สุดยอดจริง ๆ ครับท่าน !!

ตัวอย่างพระกรุวัดคู้สลอด
ขอขอบคุณภาพจาก


UPDATE



๐๖.๓๑ น. วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
เมื่อวานช่วงบ่ายเพื่อนเจ้าของพระหลวงพ่อปานที่ผมแลกมาวันก่อนมาเที่ยวดูพระดูนกที่บ้านผม  บอกว่ากำลังจะกลับไปเยี่ยมบ้านที่ อ.เสนา จ.อยุธยา มีนัดกับพรรคพวกเพื่อนฝูงเก่า ๆ ไว้ หนึ่งในภาระกิจสำคัญคือไปตามหาพระหลวงพ่อปานกรุวัดคู้สลอดพิมพ์ขี่หนุมานแบบที่ผมแลกมา 
เนื่องจากคราวก่อนตอนสังสรรค์กันได้ทาบทามไว้ เพื่อนจะให้เช่าบูชา ว่าจะไปขอให้เป็นแบบกันเองหน่อย

และจะไปดูรอบ ๆ บริเวณวัดว่ายังมีพระกรุนี้หลงเหลือตามบ้านชาวบ้านแถวนั้นหรือไม่ หากมีก็จะได้ขอบูชามาเพื่อความอุ่นใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น